เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมบนใบหน้า

ที่เขาว่ากันว่าหน้าตาดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ก็คงจะจริง เพราะสิ่งแรกที่เห็นในการทำความรู้จักกันครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นทำความรู้จักเพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน หรือใคร ๆ ก็แล้วแต่ สิ่งแรกที่เห็นก็คือหน้าตา หากเรามีหน้าตาที่ดี สะอาด ดูดี แล้วก็จะส่งผลให้คู่สนทนาของเราให้ความสนใจ พูดง่าย ๆ คือ คุยกับคนหน้าตาดี ก็คงรู้สึกดีกว่าคุยกับคนที่ไม่หล่อ ไม่สวย หรือไม่ดูดี อันนี้เป็นเรื่องจริง แต่ในระยะยาวก็คงต้องศึกษานิสัยใจคอ มากกว่าหน้าตา แต่ยังไงเราก็ต้องดูแลรักษาหน้าตาให้ดูดีอยู่ตลอดเวลา เพื่อเป็นการเปิดโอกาสดีดีให้เราตัวเองในอนาคต ดังนั้น ทำยังไงละให้หน้าตาดูดี ก็ต้องพึ่งการบำรุง และการศัลยกรรม ควบคู่กันไป โดยวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับการศัลยกรรมส่วนต่าง ๆ บนใบหน้า ว่ามีอะไรบ้าง โดยที่นิยมกันก็คงจะเป็นทุกส่วนบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็น ทำเปลี่ยนรูปหน้า การศัลยกรรมตา  จมูก ปาก เราจะมาทำความเข้าใจกันทีละอย่างเลยนะคะ
 

• ศัลยกรรมเปลี่ยนรูปหน้า ปัจจุบันนิยมหน้าแบบ V shape คือหน้าเรียวมีแก้มนิดหน่อย มีคางแหลมนิดหน่อย โดยในการแก้ปัญหาหน้าให้เป็นวีเชฟ ก็ต้องพึ่งการฉีดสารละลายหรือวิตามินหลาย ๆ เพื่อแก้ปัญหาในแต่ละจุด ไม่ว่าจะเป็นการทำโบท็อก การฉีดสลายไขมัน  การร้อยไหม โดยการทำเหล่านี้จะไม่ต้องอาศัยการผ่าตัดหรือการลงมีดบนใบหน้า โดยส่วนใหญ่จะเป็นเพียงการใช้เข็มฉีดยา และใช้เวลาไม่นาน แต่เป็นการทำเพียงชั่วคราว ต้องทำการเติมอยู่สม่ำเสมอ ดังนั้น ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปเรื่อย ๆ ไม่จบสิ้นนะจ๊ะ

    

• การศัลยกรรมตา ก็เป็นการแก้ปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำตา 2 ชั้น / การทำดวงตาให้กลมโตมากขึ้น / หรือแก้ปัญหาหนังตาตก หรือมีไขมันใต้ตา ซึ่งการศัลยกรรมตานี้ ถือเป็นการศัลยกรรมขนาดเล็ก ใช้เวลาไม่นาน 1-2 ชั่วโมงก็เสร็จ แต่หลังจากการผ่าตัด ก็ต้องดูแลแผลผ่าตัดและไปตัดไหมตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนด โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน กว่าดวงตาจะเข้ารูปตามที่ต้องการ

    

• การศัลยกรรมจมูก ก็ที่เรารู้จักกันดี สำหรับคนดั้งแหมบ จมูกบาน โดยการทำศัลยกรรมนี้ก็มีแค่ ทำให้โด่งขึ้น หรือการตัดปีกจมูกสำหรับคนที่ปลายจมูกบาน แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึง คือเนื้อจมูกของเราว่ามีมากน้อยเพียงใดหากมีน้อยแล้วอยากจมูกโด่งเยอะ ก็อาจทำให้จมูกทะลุได้นั่นเอง โดยการศัลยกรรมจมูกก็มีวัสดุให้เลือกหลายๆ  อย่าง ไม่ว่าจะเป็นซิลิโคน หรือปัจจุบันก็มีการใช้จมูกจากหูมาใช้แทนซิลิโคน หรือสำหรับคนที่กลัวเจ็บไม่อยากผ่าตัดก็จะมีการฉีดฟิลเลอร์แทนซิลิโคน แต่จะต้องมีการเติมตลอด เพราะเป็นการทำชั่วคราว ไม่ถาวร

    

• การศัลยกรรมปาก คือการแก้ปัญหาปากให้เข้ารูปตามความต้องการของสาว ๆ ไม่ว่าจะเป็นทำปากให้บางลง ทำปากกระจับ หรือต้องการปากตามดารา ดัง ๆ หลาย ๆ คน โดยเป็นการผ่าตัดภายในช่องปาก ซึ่งมองว่าเป็นการศัลยกรรมที่เจ็บมากกว่าทุกแบบที่กล่าวมา เพราะมันจะไปเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการกินหลังจากการศัลยกรรม แต่ระยะเวลาการดูแลแผลให้กลับมาหายดี ประมาณ 1-2 เดือน ซึ่งในช่วงนั้นจะมีอาการปากชาและจะค่อย ๆ หายไปเรื่อย ๆ